เบาหวาน, เบาหวานอาการ, เบาหวานเกิดจากอะไร

วิธีรับมือเบาหวาน รู้ทันอาการ พร้อมโภชนาการที่ช่วยดูแลสุขภาพที่ดี

ทำความรู้จักกับโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานเป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่พบบ่อยทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วยทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่เพียงแค่เกี่ยวข้องกับระดับน้ำตาลในเลือดเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคไต และโรคอื่นๆ อีกมากมาย

เบาหวานคืออะไร? และส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างไร?

เบาหวาน คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ อันเนื่องมาจากร่างกายผลิตอินซูลินไม่เพียงพอ หรือร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ไม่ดี ส่งผลให้เกิดปัญหาการเผาผลาญน้ำตาลในเลือด

อาการที่พบได้บ่อยในโรคเบาหวาน

  • ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำมากผิดปกติ
  • น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ
  • อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
  • แผลหายช้า และติดเชื้อง่าย
  • ตาพร่ามัว

เมื่อไม่ได้รับการรักษาหรือควบคุมอย่างถูกต้อง โรคเบาหวานจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ ไตวาย เบาหวานขึ้นตา และโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งอาจส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลงอย่างมาก

ทำไมการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดช่วยลดความเสี่ยงการเป็นเบาหวาน การทำให้น้ำตาลในร่างกายอยู่ในเกณฑ์ปกติเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น

  • ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง
  • ป้องกันโรคไตวายและการต้องฟอกไต
  • ลดโอกาสเกิดแผลเบาหวานหรือแผลเรื้อรังที่หายยาก
  • ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นและลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลระยะยาว
เบาหวาน, เบาหวานอาการ, เบาหวานเกิดจากอะไร

ความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและโภชนาการกับโรคเบาหวาน

โภชนาการที่ดีเป็นหัวใจสำคัญของการจัดการโรคเบาหวานอย่างยั่งยืน การเลือกอาหารที่เหมาะสมช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน

อาหารที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน – ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ควินัว
  • โปรตีนไขมันต่ำ – ปลา อกไก่ เต้าหู้
  • ไขมันดี – ถั่ว อะโวคาโด น้ำมันมะกอก
  • ผักใบเขียวและผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูง – ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
  • ดื่มน้ำเปล่า – แทนเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

เบาหวานเกิดจากอะไร? ทำความเข้าใจสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ

ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสาเหตุของเบาหวานประเภทที่ 1 และ 2 รวมถึงปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบของอาหารและน้ำตาล ที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้อย่างละเอียด

สาเหตุของเบาหวานประเภทที่ 1 และ 2

เบาหวานประเภทที่ 1

เบาหวานชนิดนี้มักเกิดขึ้นในวัยเด็กหรือวัยรุ่น เกิดจากภาวะที่ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอหรือหยุดผลิตอินซูลินโดยสมบูรณ์ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์เบต้าในตับอ่อนที่ทำหน้าที่สร้างอินซูลินเอง

  • เบาหวานอาการ ที่พบ เช่น ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลดผิดปกติ กระหายน้ำมาก และอ่อนเพลีย
  • ต้องอาศัยการฉีดอินซูลินเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดตลอดชีวิต

เบาหวานประเภทที่ 2

เบาหวานประเภทที่ 2 เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ใหญ่หรือผู้สูงอายุและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในคนวัยทำงาน เกิดจากภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือผลิตอินซูลินได้ไม่เพียงพอ โดยเบาหวานชนิดนี้เกี่ยวข้องกับ พฤติกรรมการใช้ชีวิต และ โภชนาการต่าง ๆ จากพฤติกรรมการกิน

  • อาการของเบาหวานประเภทที่ 2 มักค่อย ๆ แสดงออก เช่น น้ำหนักลด เหนื่อยง่าย แผลหายช้า ตาพร่ามัว
  • สามารถควบคุมได้ด้วยการปรับพฤติกรรมและการรับประทานอาหารที่เหมาะสม
เบาหวาน, เบาหวานอาการ, เบาหวานเกิดจากอะไร

ปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน

แม้เบาหวานบางประเภทจะมีปัจจัยทางพันธุกรรม แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตและโภชนาการเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดโรค

ปัจจัยเสี่ยงหลัก

  • กรรมพันธุ์ – หากมีสมาชิกในครอบครัวเป็นเบาหวาน ความเสี่ยงจะสูงขึ้น
  • น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน – ไขมันสะสมในร่างกายทำให้เกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
  • พฤติกรรมการกินไม่สมดุล – การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงและไขมันอิ่มตัวมากเกินไป
  • ขาดการออกกำลังกาย – ส่งผลให้ระบบเผาผลาญทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • ความเครียดสะสม – มีผลต่อระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

อิทธิพลของอาหารและน้ำตาลต่อการพัฒนาโรคเบาหวาน

อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง มีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดและภาวะดื้อต่ออินซูลินในร่างกาย

พฤติกรรมการบริโภคที่ควรระวัง

  • รับประทานเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก
  • บริโภคอาหารฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารแปรรูปที่มีไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์
  • การกินขนมหวาน หรือเบเกอรี่ที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวในปริมาณมาก

อาหารที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน

  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต
  • โปรตีนไขมันต่ำ เช่น เนื้อปลา อกไก่ เต้าหู้
  • ไขมันดี เช่น ถั่ว อะโวคาโด น้ำมันมะกอก
  • ไฟเบอร์สูง เช่น ผักใบเขียวและธัญพืชเต็มเมล็ด

เบาหวานอาการที่ควรรู้และภาวะแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น

โรคเบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่หลายคนอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังเผชิญอยู่ เนื่องจากในระยะแรกมักแสดงอาการไม่ชัดเจน แต่หากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นการรู้จักเบาหวานอาการเบื้องต้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันก่อนที่จะเกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

อาการหลักของโรคเบาหวานที่ควรสังเกต

เมื่อกล่าวถึงคำว่า **เบาหวานเกิดจากอะไร** หลายคนทราบดีว่ามักเกี่ยวข้องกับอินซูลินและระดับน้ำตาลในเลือด แต่สิ่งที่หลายคนไม่ทันระวังคือเบาหวานอาการที่บ่งบอกว่าร่างกายเริ่มมีปัญหาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว

อาการเบื้องต้นของโรคเบาหวาน

  • กระหายน้ำมากผิดปกติ – ร่างกายพยายามขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ
  • ปัสสาวะบ่อย – โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ – แม้รับประทานอาหารมากขึ้น
  • เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย – ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลเป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • แผลหายช้า – โดยเฉพาะที่เท้าและขา
  • คันตามผิวหนัง หรือ ติดเชื้อบ่อย – เช่น การติดเชื้อราหรือเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
  • ตาพร่ามัว – ระดับน้ำตาลในเลือดสูงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเลนส์ตา

ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน

หากไม่ควบคุมหรือดูแลโรคเบาหวานอย่างเหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายและส่งผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว

ภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อย

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด – เบาหวานเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและหัวใจวาย
  • ไตเสื่อม (Diabetic Nephropathy) – น้ำตาลในเลือดสูงทำให้ไตทำงานหนักและเสื่อมลงจนถึงขั้นไตวาย
  • ปัญหาด้านสายตา – เช่น เบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy) ที่อาจรุนแรงถึงขั้นตาบอด
  • เส้นประสาทเสื่อม (Neuropathy) – ชาปลายมือปลายเท้า รู้สึกปวดแสบปวดร้อนหรือไม่รู้สึก
  • แผลเรื้อรังที่เท้า – หากไม่รักษาอาจต้องตัดขาในกรณีรุนแรง

วิธีตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและการเฝ้าระวังสุขภาพ

การเฝ้าระวังและตรวจระดับน้ำตาลในเลือดอย่างสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการควบคุมและป้องกันโรคเบาหวาน รวมถึงภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

วิธีตรวจระดับน้ำตาลในเลือด

  • ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร (FBS) – ค่าปกติควรต่ำกว่า 100 mg/dL
  • ตรวจน้ำตาลหลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง (Postprandial) – ควรต่ำกว่า 140 mg/dL
  • การตรวจค่า HbA1c – แสดงระดับน้ำตาลเฉลี่ยในช่วง 3 เดือน ควรไม่เกิน 6.5%-7% สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

การเฝ้าระวังสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

  • ปรับพฤติกรรมการกิน ลดน้ำตาลและไขมัน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์
  • พบแพทย์เพื่อตรวจติดตามระดับน้ำตาลและการทำงานของอวัยวะต่างๆ เป็นประจำ
  • บริโภคอาหารที่มีโภชนาการสมดุล

โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

การจัดการเบาหวานอย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงแต่อาศัยยาและการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังต้องใส่ใจในเรื่องของโภชนาการซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล ลดความเสี่ยงของเบาหวานอาการรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน พร้อมทั้งอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อสุขภาพที่ดีและการควบคุมระดับน้ำตาลที่มีประสิทธิภาพ

อาหารที่ควรรับประทาน

สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานการเลือกอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำและมีสารอาหารครบถ้วนจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยได้ง่ายขึ้น

1. คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

  • ข้าวกล้อง – อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล
  • ควินัว – เป็นธัญพืชที่มีโปรตีนสูงและค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ

คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงรวดเร็วหลังรับประทานอาหาร และให้พลังงานที่ยาวนานกว่าแป้งขัดสี

2. โปรตีนคุณภาพดี

  • เนื้อปลา – โดยเฉพาะปลาที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน
  • ไข่ขาว – โปรตีนไขมันต่ำที่ดีต่อสุขภาพ
  • เต้าหู้ – โปรตีนจากพืชที่เหมาะกับการควบคุมน้ำตาลในเลือด

โปรตีนช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกอิ่มนาน

3. ไขมันดี

  • น้ำมันมะกอก – ช่วยลดคอเลสเตอรอลและดีต่อระบบหัวใจ
  • อะโวคาโด – อุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวที่ช่วยลดไขมันเลว (LDL)
  • ถั่วและเมล็ดพืช – เช่น อัลมอนด์ วอลนัท และเมล็ดแฟลกซ์

ไขมันดีมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เบาหวานอาการแย่ลงและควบคุมระดับน้ำตาลได้ดี ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพ

1. น้ำตาลและแป้งขัดสี

  • ขนมปังขาว
  • ข้าวขัดสี
  • เบเกอรี่ ขนมหวาน

แป้งขัดสีและน้ำตาลสูงจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ส่งผลเสียต่อการควบคุมเบาหวานในระยะยาว

2. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

  • น้ำอัดลม
  • น้ำหวาน
  • ชานมไข่มุก

เครื่องดื่มเหล่านี้มีน้ำตาลสูงมาก ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินเกณฑ์ในทันทีหลังดื่ม

3. อาหารทอดและไขมันทรานส์

  • อาหารฟาสต์ฟู้ด
  • ขนมขบเคี้ยวทอดกรอบ
  • โดนัทหรือเบเกอรี่ที่ใช้เนยเทียม

ไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูงทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของเบาหวาน

อาหารทดแทนมื้ออาหาร

นิวทริโฟล (Nutriflow®) อาหารทดแทนมื้ออาหารที่คุณไว้ใจได้

การดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่มีภาวะเบาหวานจำเป็นต้องใส่ใจเรื่องสารอาหารอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย พร้อมลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหัวใจ ไตเสื่อม และโรคหลอดเลือดสมอง

นิวทริโฟล (Nutriflow®) ให้สารอาหารที่จำเป็นทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุครบถ้วน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้พุ่งสูงเร็วเกินไป พร้อมเสริมใยอาหารที่ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการดูแลสมดุลทางโภชนาการ

หนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้การดูแลสุขภาพของผู้ป่วยเบาหวานที่ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโภชนาการครบถ้วนและเหมาะสมกับภาวะของผู้ป่วย นิวทริโฟล (Nutriflow®) สามารถตอบโจทย์บริโภคให้สามารถจัดการกับสารอาหารที่ต้องการได้ง่ายขึ้น เพราะมีน้ำตาล 0% และสารอาหารที่เหมาะสมสำหรับหนึ่งมื้อ

นิวทริโฟล (Nutriflow®) มีไอโซมอลต์ทูโรส (Isomaltulose) น้ำตาลทางเลือกที่เป็นมิตรต่อระดับน้ำตาลในเลือด

หนึ่งในจุดเด่นสำคัญของ นิวทริโฟล (Nutriflow®)คือการเลือกใช้ ไอโซมอลต์ทูโรส (Isomaltulose) ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดพิเศษที่ให้พลังงานช้าและคงที่ ไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว

  • ไอโซมอลต์ทูโรส (Isomaltulose) เป็นน้ำตาลที่มีดัชนีน้ำตาล (GI) ต่ำ
  • ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ให้พลังงานอย่างสม่ำเสมอ ลดอาการหิวหรือความอยากอาหารระหว่างวัน
  • เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลอย่างแม่นยำ

การที่นิวทริโฟล มีน้ำตาล 0% เพราะ (Nutriflow®) เลือกใช้ไอโซมอลต์ทูโรส (Isomaltulose) แทนน้ำตาลทั่วไปทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นอาหารทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำตาลในเลือด และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะน้ำตาลไม่คงที่ในระหว่างวัน

“ดื่มง่าย ได้ครบ” – อาหารทดแทนมื้ออาหารที่สะดวกและมีสารอาหารเหมาะสมสำหรับหนึ่งมื้อ

นิวทริโฟล (Nutriflow®) คือผลิตภัณฑ์ทดแทนมื้ออาหารที่ออกแบบให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการโภชนาการครบถ้วนในรูปแบบที่สะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการบริโภค โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีเบาหวานอาการหรือต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเข้มงวด

จุดเด่นสำคัญคือ

  • “ดื่มง่าย” – ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมอาหาร เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ
  • “ได้ครบ” – ให้สารอาหารครบ 5 หมู่ ช่วยควบคุมพลังงานและลดความเสี่ยงของน้ำตาลสูง

ความน่าเชื่อถือจากสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดล

นิวทริโฟล (Nutriflow®) ได้รับการพัฒนาและรับรองคุณภาพจากสถาบันโภชนาการมหาวิทยาลัยมหิดลโดยผ่านการวิจัยและทดสอบทางคลินิก เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

รสชาติอร่อย ที่คุณดื่มได้ทุกวัน

สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องรสชาติ นิวทริโฟล (Nutriflow®) ได้ออกแบบให้มีรสชาติกลมกล่อมและอร่อย สามารถดื่มได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่ายและน่ารื่นรมย์ ทั้ง 3 รสชาติ ได้แก่

  • รสวานิลลา หอม อบอุ่น ละมุนละไม
  • รสช็อกโกแลต อร่อย เข้มข้น
  • รสธัญพืช หอมกลมกล่อมแบบธรรมชาติ

นิวทริโฟล (Nutriflow®) เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีเบาหวานและต้องการอาหารเสริมที่มีโภชนาการครบถ้วน
  • ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อเบาหวานและต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • ผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีเบาหวานอาการแทรกซ้อน เช่น อ่อนเพลีย แผลหายช้า หรือน้ำหนักลด

เคล็ดลับการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

  • วางแผนมื้ออาหารให้สมดุล ควบคุมปริมาณน้ำตาลที่บริโภค
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น เดินเร็ว โยคะ เวทเทรนนิ่ง
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ใช้นิวทริโฟล (Nutriflow®) ในมื้ออาหารเพื่อโภชนาการที่สมดุลและสะดวกต่อการควบคุมระดับน้ำตาล เพราะมีน้ำตาล 0%

บทสรุป – ดูแลเบาหวานอย่างถูกวิธีเพื่อสุขภาพดีระยะยาว

เบาหวานเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของอินซูลินและระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ น้ำหนักเกิน หรือพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสม ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้าใจว่าเบาหวานเกิดจากอะไร และให้ความสำคัญกับการควบคุมอาหารอย่างสม่ำเสมอ

การเลือกโภชนาการที่เหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงของเบาหวานอาการที่รุนแรง เช่น น้ำตาลสูง เหนื่อยง่าย แผลหายช้า และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตควบคู่กับการเลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการจึงเป็นกุญแจสำคัญ

นิวทริโฟล (Nutriflow®)คืออีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ด้วยสารอาหารเหมาะสมสำหรับ 1 มื้อ ดื่มง่าย สะดวก และปลอดภัย ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและดูแลสุขภาพในทุกวัน

Product

About

Learn

©O&P Quality Trade Co., Ltd. All rights Reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save